ประเทศไทยส่วนใหญ่มักใช้ปากกาสีน้ำเงินในการเขียนเอกสารราชการ เขียนการบ้านส่งอาจารย์ และในต่างประเทศโดยทั่วไปก็มักจะใช้สีน้ำเงินเหมือนกับเรา แต่ในประเทศญี่ปุ่นนั้นสีดำคือสีทางการในการเขียนเอกสาร
ถึงแม้ว่า การทำธุรการที่ญี่ปุ่น เจ้าหน้าที่จะบอกกับคุณว่า “กรุณากรอกเอกสารด้วยปากกาสีดำหรือสีน้ำเงิน” แต่ในความเป็นจริง กลับมีเพียงแค่ปากกาหมึกสีดำวางเอาไว้เท่านั้น เพราะธรรมเนียมปฏิบัติตามปกติทั่วไปประเทศญี่ปุ่น จะใช้ปากกาหมึกสีดำ มากกว่าหมึกสีน้ำเงิน เพราะมีหลาย ๆ แห่งที่ไม่รับเอกสารที่กรอกด้วยปากกาสีน้ำเงิน จึงทำให้ทุกคนต่างใช้ปากกาดำในการกรอกมากกว่า จนกลายเป็นประเพณีนิยม
ตั้งแต่ในสมัยอดีตการญี่ปุ่นมีการใช้หมึกและพู่กันในการเขียนเอกสาร รวมถึงเอกสารลับเช่นกัน ในสมัยก่อนมีเหตุการณ์ข้อมูลลับรั่วไหลถึงข้าศึกหลายต่อหลายครั้งจนได้มีการคิดค้นหมึกล่องหนขึ้น เมื่อเวลาผ่านไปหมึกโดนอากาศนานเข้าจะระเหยไปเองตามธรรมชาติ นี่คือหมึกล่องหนของชาวญี่ปุ่นที่ถูกใช้กันในยุคสมัยหนึ่ง
จากนั้นเวลาก็ล่วงเลยมาจนถึงยุคที่ไม่มีความจำเป็นต้องเขียนเอกสารลับด้วยหมึกล่องหน เจ้าหมึกตัวนี้จึงมีความไม่สะดวกในการใช้งานในยุคนี้ขึ้นมาโดยปริยาย จึงได้มีการใช้หมึกที่มีความคงทนสูงคือ “หมึกอินดิโก้” ซึ่งเป็นสีผ้ายีนส์ ที่ในสมัยนี้มักนำมาย้อมกางเกงยีนส์กัน นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นของหมึกสีน้ำเงินของญี่ปุ่น สามารถเขียนเอกสารได้ ตัวอักษรไม่หาย และคงทน
จากนั้นประเทศญี่ปุ่นได้รับวัฒนธรรมของ “หมึกสุมิ(?)” จากจีน ซึ่งเป็นหมึกสีดำ จึงเริ่มมีการใช้สีดำกันอย่างแพร่หลายมากขึ้นมาจนถึงปัจจุบัน
ในยุโรป และรวมถึงประเทศไทยใช้ปากกาหมึกสีน้ำเงินในการกรอกเอกสารเพื่อให้สามารถตรวจสอบได้ว่านี่คือเอกสารต้นฉบับ แต่ในประเทศญี่ปุ่นกลับใช้สีดำมาจนถึงปัจจุบัน!!? แล้วคนญี่ปุ่นแยกเอกสารต้นฉบับกับสำเนาอย่างไร?? ประเทศญี่ปุ่นมีวัฒนธรรมการใช้ตราประทับฮังโกะ(??)ในการเซ็นต์ลายเซ็นต์นั่นเอง ซึ่งตัวหมึกของตราประทับนั้นเป็นสีแดง หากเป็นเอกสารจริงก็สามารถตรวจสอบได้จากสีของตรงตราประทับนั่นเอง