สาระน่ารู้

สาเหตุของการเป็นตะคริวและวิธีแก้ตะคริว

คาดว่าเหล่าซีเนียร์ทั้งหลายคงประสบปัญหากับ อาการกล้ามเนื้อหดเกร็งเฉียบพลัน
ซึ่งทำให้เกิดอาการปวด แต่มันก็สามารถหายไปเองได้ .อาการที่ว่ามานี้เรียก ตะคริว

ถึงจะเป็นเรื่องที่.ผิดปกติ แต่มันก็ไม่ได้เป็นเรื่องแปลกประหลาด เพราะมันเกิดขึ้นได้
กับกล้ามเนื้อของเราได้ แทบทุก ๆ ส่วน 
โดยมากแล้ว.มักจะเป็นในวัยกลางคนขึ้นไป

สาเหตุของอาการ ตะคริว มีได้หลายปัจจัย ดังนี้

1. กล้ามเนื้อไม่มีความยืดหยุ่นพอ เนื่องจากไม่ค่อยออกกำลังกาย
2. มีการใช้งานกล้ามเนื้อส่วนนั้นนานเกินไป จนเกิดอาการหดเกร็ง
3. เกลือแร่ภายในร่างกาย ขาดความสมดุล หรือ ดื่มน้ำน้อยเกินไป
4. ค่าแคลเซียมที่อยู่ในเลือดมีความเข้มข้นเฉลี่ย ต่ำกว่ามาตรฐาน
5. กล้ามเนื้ออาจจะบาดเจ็บ แต่เป็นน้อย.จึงไม่แสดงอาการออกมา
6. มีอิริยาบถนอน นั่ง ยืน นานเกินไป จนไม่ได้เกิดความผ่อนคลาย
7. อาจเป็นภาวะของ หลอดเลือดแดงแข็ง หรือ หลอดเลือดตีบตัน
………………

การแก้ตะคริวเบื้องต้น สามารถทำได้ด้วยตัวเอง

โดยมากแล้ว จะเกิดขึ้นในเวลานอน เพราะว่าการนอน มักไม่เกิดการเปลี่ยนอิริยาบท
ดังนั้นแล้ว จึงควรที่จะนอนที่ท่าทางที่ผ่อนคลายมากที่สุด เพื่อจะไม่เกิดการหดเกร็ง
ของกล้ามเนื้อ และการสร้างความอบอุ่นให้ร่างกายด้วยการห่มผ้าก็เป็นตัวช่วย.อีกวิธี

ว่าด้วยการป้องกันไปแล้วเรามาดูเรื่องของการแก้ไขกันบ้างดีกว่า เมื่อเกิดเป็นตะคริว
ในช่วงที่นอนอยู่ในเวลากลางคืน สิ่งที่ควรจะทำ คือ พยายามยืดกล้ามเนื้อในส่วนนั้น
ไม่ว่าจะเป็นแขนหรือขา โดยให้ยืดแขน/ขา เป็นแนวตรง แล้วบิดปลายข้อมือ/ข้อเท้า
ค้างเอาไว้ประมาณ 5 วินาที ทำสลับกันไปมา การหดเกร็งก็จะลดลง และหายไปเอง

แต่ถ้าหากว่ามีใครอยู่ด้วย จะให้ช่วยนวดร่างกายในบริเวณที่ปวดตะคริว ก็ย่อมได้ฮะ

สุดท้าย หากท่านพบว่าตนเองเกิดอาการตะคริวอยู่บ่อยครั้ง ผมขอแนะนำให้ปรับเรื่องอาหารการกิน
ขึ้นมาอีกนิดนึง ในเรื่องของแคลเซียม และถ้าจะให้ดีที่สุด ควรออกกำลังกายตามสมควร (อย่าโหม)
เอาแค่ให้ร่างกายได้เกิดการเคลื่อนไหว เพื่อสร้างความแข็งแรง และยืดหยุ่น ให้กล้ามเนื้อของท่าน

———————————————————————————————————————

credit : https://www.facebook.com/ThaiPBSFan/posts/10164699112895085
credit : https://www.paolohospital.com/th-TH/chokchai4/Article/Details/…

credit : https://i.insider.com/5ebec2bbf34d0576914bd0a4?width=700
credit : https://www.uwhealth.org/files/uwhealth/images/A_Social/ss_11592…

Show More

บทความที่เกี่ยวข้อง

Back to top button