รสชาติของอาหารมีหลายรสด้วยกัน อาทิเช่น รสเค็ม รสหวาน รสเผ็ด รสขม และรสเปรี้ยว ซึ่งในแต่ละรสชาติก็มีประโยชน์ต่อร่างกายแตกต่างกันไป รสเปรี้ยวก็เป็นรสหนึ่งที่สร้างความจัดจ้านให้กับอาหารบางอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเมนูต้มยำหรือยำต่างๆ จนถึงกับหากขาดรสเปรี้ยวไป อาหารจานนี้จะหมดความอร่อยในทันที
รสเปรี้ยวมาจากแหล่งอาหารชนิดใด
1. รสเปรี้ยวที่มาจากอาหาร เป็นรสเปรี้ยวที่มาจากกรดธรรมชาติที่อยู่ในผักและผลไม้ เช่น มะนาว มะกรูด ส้ม มะขาม ส้มแขก ตะลิงปลิง มะดัน มะปริง มะยม มะพูด มะตาด มะม่วง มะม่วงหาวมะนาวโห่ มะอึก ระกำ คอแลน และหมากค้อ เป็นต้น สำหรับในผักที่สามารถรับประทานได้ทั้งใบ เช่น ชะมวง ติ้ว ส้มป่อย กระเจี๊ยบแดง หรือมะกอก เป็นต้น โดยเราจะเรียกว่ากรดอินทรีย์ (Organic acid) ซึ่งกรดที่ได้คือกรดซิตริก (citric acid) กรดมาลิก (malic acid) และกรดทาร์ทาริก (Tartaric acid)
2. รสเปรี้ยวที่มาจากสารสังเคราะห์ นั่นคือน้ำส้มสายชูหรือน้ำมะนาวเทียม ซึ่งมาจากการนำน้ำเปล่าผสมกับกรดซิตริกและสารแต่งกลิ่น สารป้องกันการตกตะกอน และสารกันบูด
ซึ่งการที่เราบริโภคอาหารรสเปรี้ยวมากจนเกินไปนั้น อาจจะส่งผลให้ กล้ามเนื้อตึง ถึงแม้ว่าการนวดจะช่วยผ่อนคลายได้ แต่ภายในไม่ช้าก็จะกลับมาหดตึงได้อีก หนักๆเข้าอาจจะทำให้มีอาการปวด มีหลายๆท่านที่อ่านเรื่องนี้แล้ว เกิดมีคำถามเกิดขึ้นในใจ ว่ามันเกี่ยวอะไรกันด้วยระหว่าง กล้ามเนื้อหดตึง กับการกินรสเปรี้ยว
ทุกครั้งที่ร่างกายเกิดการเปลี่ยนแปลง โดยมากแล้วมักเกิดจากขาดสมดุลย์ ซึ่งการกินแต่รสเปรี้ยว ก็นับเป็นสาเหตุหนึ่ง ที่ทำให้ร่างการขาดสมดุลย์ เพราะหากกินเปรี้ยวมากเกินไป จะส่งผลให้เลือดเราเป็นกรด ซึ่งอันที่จริงการบริโภครสเปรี้ยวแต่น้อย ก็สร้างกรดให้กับร่างกายได้เช่นกัน แต่เพราะปริมาณที่น้อย ร่างกายจึงรับไหวและยังพอปรับตัวได้ทัน จึงไม่ได้มีกรดตกค้างมากพอ ที่จะส่งผลให้เกิดอาการตึงจนเรารู้สึกตัวขึ้นมาได้
โดยธรรมชาติร่างกายจะปรับสมดุลย์ได้ด้วยกลไลของตัวเอง ด้วยการดึงน้ำออกมาจากเซลล์ เพื่อควบคุมสภาวะการทำงานของเซลล์ ให้เป็นไปอย่างปกติ ซึ่งกระบวนการดึงน้ำเหล่านี้ จะทำให้เซลล์กล้ามเนื้อเกิดภาวะหดตัว หรือ ตึงตัวขึ้น แต่ถ้าหากมีการดึงน้ำในปริมาณที่เล็กน้อย ย่อมไม่ส่งผลให้กล้ามเนื้อตึงจนถึงกับปวดเมื่อยได้ แต่ทว่า การปรับสมดุลย์ซ้ำๆถี่ๆ ก็สามารถเป็นอีกสาเหตุนึงที่จะนำมา ซึ่งอาการกล้ามเนื้อตึงได้
