กินทุเรียนช่วยชะลอวัย ลดไขมัน ไม่เพิ่มพุง

กินไม่เพิ่มพุง
ความน่าเกรงขามอย่างหนึ่งของทุเรียนคือ “กินแล้วอ้วน” ชวนให้ผู้รักสุขภาพ แต่ก็รักทุเรียนไม่น้อย หลายท่านบ่นอุบว่าไม่กล้ากินหรือจะกิน ก็ต้องกินแบบเกรงอกเกรงใจแทบจะสะกิดพูกินกัน ซึ่งที่จริงการกินแบบไม่เสี่ยงเพิ่มพุงให้ยุ่งยากของทุเรียนก็คือไม่ควรกินมากเกินไป และที่สำคัญคือ ไม่ควรกินกับอาหารแป้งหรือของหวานอื่นๆ บ่อยนัก เช่น กินทุเรียนแล้วก็ไม่ต้องซ้ำด้วยของหวานอื่น หรือถ้าจะกินทุเรียนมื้อนี้ ก็ควรกินข้าวให้น้อยแล้วเผื่อท้องไว้แทน รวมถึงไม่ควรกินข้าวเหนียวทุเรียนที่อร่อยหวานมันบ่อยนัก
กินลดไขมัน
ใครว่าทุเรียนมีแต่น้ำตาลกับแป้งก็ผิดถนัดเพราะในความหวานมันและกลิ่นแรงของมันนั้นมีสารเคมีธรรมชาติที่ช่วยลดไขมันได้จากการวิจัย โดยการทดลองชี้ให้เห็นว่าสารสำคัญในทุเรียนหมอนทองมีส่วนช่วยลดไขมันในเลือดได้ แต่ทั้งนี้อยู่ที่การกินในปริมาณที่เหมาะสมและต้องคุมอาหารอย่างอื่นๆ ด้วยนะครับ เพราะการกินหมอนทองแสนอร่อยทีเดียวหลายพูแล้วก็นั่งอืดอยู่ ไม่สามารถช่วยให้สุขภาพดีได้เลย
กินดับกลิ่น
ปัญหาสำคัญอีกเรื่องคือ กลิ่นที่แรงจัดของทุเรียน ซึ่งถ้าคนชอบก็ยังพอรับได้ แต่ถ้าคนไม่ก็จะกลายเป็นสิ่งชวนไม่ปลื้มทันที ในเรื่องกลิ่นนี้มาจากสารอินทรีย์กำมะถันในทุเรียน ซึ่งการแก้กลิ่นหลังกินทุเรียนนี้คงไม่ถึงขนาดทำให้ไร้กลิ่น แต่ก็พอช่วยบรรเทาไปได้ มีเทคนิคคือ กินฝรั่งห่ามๆ สัก 3-4 ชิ้น เคี้ยวใบสะระแหน่สด หรือสูตรโบราณท่านว่าให้ดื่มน้ำที่รินใส่เปลือกทุเรียน
กินช่วยลำไส้
ถ้าจะกินลูกไม้หนามแหลมนี้ให้ช่วยลำไส้ ขอให้อย่ารับประทานหนักเกินไป เพราะเนื้อทุเรียนจะหมักให้แก๊สทำให้อึดอัดท้อง แต่อาจรับประทานแบบพอประมาณแล้วดื่มน้ำตามได้ หรือจะกินตอนท้องว่างก็ได้ เพราะจะช่วยระบายและไล่เชื้อในลำไส้ด้วยฤทธิ์ต้านจุลินทรีย์แบบธรรมชาติ ส่วนที่เปลือกมีของดีที่ใช้ฆ่าเชื้อฟันผุในช่องปากได้
กินชะลอวัย
ทุเรียนไม่ได้กินเพื่อประชดพุงอย่างเดียวนะครับแต่ยังช่วยกระชากวัยได้ด้วย เพราะในทุเรียนมีสารต้านสนิมแก่ที่สำคัญหลายตัวดังที่บอกไป อย่างโพลีฟีนอลส์ และฟลาโวนอยด์ ซึ่งมีพลังในการต้านอนุมูลอิสระที่โดดเด่นนอกจากนั้นยังมีวิตามินที่ช่วยสุขภาพผิวพรรณอย่างเบต้าแคโรทีน วิตามินอี และวิตามินซีด้วย ขอท่านที่รักอย่าคิดว่าต้องเปรี้ยวจึงมีซี เพราะทุเรียนก็มีกรดแอสคอบิกนี้เช่นกันซึ่งช่วยทำงานร่วมกับคอลลาเจนของท่านด้วย
กินเติมแร่ธาตุ
ในทุเรียนเนื้อเหลืองมีแร่ธาตุสำคัญที่ร่างกายคนเราขาดไม่ได้อาทิ ธาตุเหล็ก โพแทสเซียม แมกนีเซียม ทองแดง และสังกะสีครบ ท่านที่มีโลหิตจางขาดธาตุเหล็กก็กินทุเรียนอร่อยๆเ ป็นตัวเติมเหล็กได้ ส่วนท่านที่อยากบำรุงเส้นผมก็ได้ “ซิงก์” คือ แร่สังกะสีกับกำมะถัน ที่ช่วยสุขภาพผมที่มีอยู่ในทุเรียนได้
นอกจากนั้นถ้าไม่ได้ป่วยด้วยโรคไตเสื่อมหรือโรคหัวใจทุเรียน ก็เป็นแหล่งโพแทสเซียมที่ช่วยลดความดันได้ด้วย