อุทธาหรณ์ : เรื่องโดนหลอกให้ซื้อกองทุน

คงจะเคยได้ยินกันมาบ้าง เรื่องของพนักงานธนาคาร หลอกขายกองทุนให้กับคนแก่ พอทางบัดดี้เราได้อ่านเนื้อหานี้
จึงอยากจะแชร์ประสบการณ์จากต้นทางซึ่งอยู่ที่ pantip.com มาให้ลองศึกษากันดู เผื่อประวัติศาสตร์จะได้ไม่ซ้ำรอย

————————————————————————————————————————–

เรื่องคนถูกหลอกให้ซื้อกองทุน เกิดขึ้นกับลุงและป้าเราที่อายุ 60 กว่าแล้ว และมีความรู้เพียงชั้น ป.4 เพียงเท่านั้น
โดยถูกธนาคารหลอกให้ซื้อกองทุนระหว่างประเทศเป็นเงิน 1,000,000 บาท (คนที่ทำเรื่องนี้ คือผู้จัดการธนาคาร)
เราจึงได้โต้แย้ง จนเอาเงินต้นคืนมาครบ และเรียกดอกเบี้ยย้อนหลังจากธนาคารมาด้วย จึงอยากจะแชร์ให้อ่านกัน

ย้อนกลับไปตอนที่แบงก์โทรมาบอกว่าบัญชีลุงถูกล็อกเพราะไม่มีรายการเคลื่อนไหวนานแล้ว จึงทำธุรกรรมไม่ได้
เลยต้องเข้าไปเซ็นเอกสารปลดล็อค (ซึ่งจริง ๆ คือเอกสารเปิดบัญชีกองทุน) ตามความเป็นจริงแล้ว หากบัญชีคุณ
ไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับเรื่องที่ผิดกฎหมาย.ใครหน้าไหนก็ไม่สามารถล็อคบัญชีของคุณได้ มันต้องมีคำสั่งจากหน่วยงาน
ที่มีอำนาจอาญัติบัญชีธนาคาร จึงจะสามารถล็อกบัญชีคุณได้ ต่อให้คุณไม่มีรายการเคลื่อนไหวเลย หรือเงินเหลือ
น้อยกว่าที่แบงก์กำหนด แบงก์ทำได้เพียงแค่ ส่งจดหมายมาแจ้งว่า หากไม่มีการเคลื่อนไหวจากบัญชีเลย มันก็จะ
เริ่มมีการคิดค่าธรรมเนียมดูแลบัญชี โดยหักจากเงินในบัญชีที่มีไปเรื่อย ๆ จนหมด .แต่ยังไง ก็ล็อคบัญชีคุณไม่ได้

หากในบัญชีมีเงินมากกว่า 2,000 บาท และไม่มีการเคลื่อนไหวใด ๆ ติดต่อกันนานเกิน 1 ปี บัญชีจะถูกระงับ
การทำธุรกรรมโดยอัตโนมัติ โดยไม่มีการคิดค่าธรรมเนียมการรักษาบัญชี เพื่อป้องกันการทำธุรกรรมจากมิจฉาชีพ
ทั้งในด้านของออนไลน์ และการมอบฉันทะ ซึ่งในกรณีเช่นนี้ เจ้าของบัญชีจะต้องนำสมุดบัญชีไปติดต่อสาขาธนาคาร
เพื่อทำการ Activate บัญชีนั้น ๆ **แต่ในการ Activate จะไม่มีการให้เซ็นเอกสารใด ๆ ทั้งสิ้น**

และเมื่อความจริงได้ถูกเปิดเผย เรื่องนี้เกิดโดยที่ไม่มีลูกหลานคนไหนได้ล่วงรู้มาก่อนครับ เพราะเป็นบัญชีส่วนตัว
ของคุณลุง จนเมื่อ 8 เดือนหลังเซ็นเอกสารไปแล้ว จึงมีจดหมายเปลี่ยนแปลงนโยบายกองทุนส่งมาที่บ้าน ทุกคน
ถึงรู้ จึงขอดูเอกสารทั้งหมดที่ลุงได้มาจากแบงก์ แต่ได้มาแค่สมุดบัญชีกองทุนที่ดูเผิน ๆ ก็เหมือนสมุดบัญชีทั่วไป

ก็เลยมานั่งซักลุงกับป้าอยู่นาน สรุปได้ว่า จนท.โทรตามไปปลดล็อค แล้วก็บอกว่าให้เปลี่ยนมาเป็นแบบนี้แทนมั้ย
เพราะได้ดอกเบี้ยเยอะกว่าเดิมนะ ถ้าฝากล้านนึง จะได้ดอกประมาณ 3% นะ แต่จ่ายภาษีก่อนประมาณ 8,000 นะ
(ที่จริงคือค่าธรรมเนียมในการซื้อกองทุน) ก็จะเหลือดอกปีละ 20,000 นิด ๆ แต่ยังไง ก็ได้เยอะกว่าบัญชีเดิม และ
ยังฝากถอนตามปกตินะ แต่ขอให้บอกล่วงหน้า 3 วันนะ ป้าก็เลยถามว่าเสี่ยงมั้ย ถ้าเสี่ยงไม่เอา จนท.บอกไม่เสี่ยง
แล้วก็ติ๊กเอกสารให้ ว่าต้องเซ็นตรงไหนบ้าง เพราะเชื่อใจในผจก. ที่ดูแลบัญชีให้มาเป็น 10 ปี แล้ว ..ก็เลยเซ็นไป

หน่วยงานที่มีอำนาจเหนือธนาคารในการซื้อขายกองทุนคือ กลต. มีข้อบังคับอยู่ว่า..

−ก่อนขาย จนท.จะต้องแนะนำตัว โดยแจ้งชื่อนามสกุลและเลขที่ใบอนุญาตให้ชัดเจน (ใบอนุญาตต้องไม่หมดอายุ)

**สามารถนำเลขไปเช็คสถานะได้ในเว็บกลต.ได้ พร้อมข้อมูลว่าปัจจุบันทำงานบริษัทไหนอยู่ ป้องกันการแอบอ้าง**

−ถ้าจะซื้อขาย จะต้องถามทุกครั้งว่า ต้องการให้มีผู้มีความรู้นั่งฟังอยู่ด้วยหรือไม่

−หากซื้อขายเป็นครั้งแรก จะต้องให้ลูกค้าทำแบบประเมินความเสี่ยงก่อน และต้องทำทุกปี หรือ ทุก 3 ปี
ซึ่งคะแนนจะเป็นตัวกำหนดว่าซื้อกองทุนใดได้บ้าง (เพราะแต่ละกองทุนมีความเสี่ยงไม่เท่ากัน ซึ่งมีเลขระดับบอกไว้)

−ไม่มีสิทธิ์การันตีผลตอบแทนในการลงทุน (นี่คือที่มาของคำว่า การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาก่อนตัดสินใจลงทุน)

−หลังการขายจะต้องออกใบเสร็จ และให้หนังสือชี้ชวนการลงทุนกลับมาที่ผู้ซื้อ

ถ้าไม่เป็นตามนี้ สามารถแจ้งกลต. เอาผิดได้ มีโทษคือยึดใบอนุญาต และ จนท.ก็จะทำงานไม่ได้

เมื่อลองเอาชื่อของกองทุน ไปค้นหา เพื่อโหลดหนังสือชี้ชวนมาดู (ทุกกองทุน จะมีหนังสือ
ชี้ชวนแบบออนไลน์ ให้โหลดอ่านฟรี) จับใจความได้คร่าว ๆ ว่าเป็นกองทุนระหว่างประเทศ
ปรากฏว่าความเสี่ยงอยู่ที่ระดับ 5 ก็คือ ไม่จ่ายดอกเบี้ย ไม่มีปันผล และ ไม่คุ้มครองเงินต้น

พอได้กลิ่นตุ ๆ ก็เลยรีบเอาเลขใบอนุญาตของจนท.ที่ขายกองทุน ไปเช็คในเว็บกลต. จึงพบว่า วันที่ขายให้ลุงกับป้า
ใบอนุญาตเขาหมดอายุแล้ว (เอาแล้ว ชักช้าไม่ได้แล้ว!) ก็เลยต้องบุกไปหานางที่ธนาคารเลย เพราะได้รับคำแนะนำ
จากผู้ใหญ่มาว่า “ห้ามโทรไปก่อน ให้เข้าไปที่สาขาเลย” เพราะเราไม่แน่ใจว่าเรื่องนี้ ผจก.รู้เห็นเป็นใจด้วยหรือเปล่า
แต่ก่อนไป ก็เตี๊ยมกับป้าอย่างดีว่า ยังไม่โวยวายนะ ขอไปนั่งทำหน้าซื่อ ๆ นั่งนิ่ง ๆ แล้วตั้งใจฟังเขาพูดใหัชัด ๆ ก่อน
จึงเริ่มต้นประโยคว่า พอดีวันที่คุณลุงซื้อกองทุน.เราไม่ได้มาด้วย เลยอยากรู้รายละเอียด ช่วยเล่าให้ฟังอีกรอบได้มั้ย

พอนางเปิดสมุดเลยบอกมาว่า “อ๋อ กองนี้ต้องถือ 2ปีขึ้นไปค่ะ ถึงจะเริ่มเห็นกำไร” (ไหนบอกว่าดอกเบี้ยปีละ 3% ไง)
เท่านั้นแหละฟิวส์ขาด ก็เลยตบโต๊ะ วีนลั่นธนาคารเลย ทำไมถึงขายกองทุนแบบนี้ให้คนกับแก่ครับ แล้วไหนใบเสร็จ
หนังสือชี้ชวนก็ไม่ให้ไป ใบอนุญาตคุณก็หมดอายุด้วยในวันที่ขาย นางเถียงว่า ยังไม่หมดอายุ เราก็เลยหยิบเอกสาร
ออกมากางบนโต๊ะ (ปริ้นท์มาแล้วพร้อมไฮไลท์วันหมดอายุ) ชี้ให้ดูแล้วบอกว่า ผมคงต้องอิงข้อมูลจาก กลต.ไว้ก่อน

data credit by https://pantip.com/topic/38948734 .||. photo by https://www.scb.co.th/content/d…