สาระน่ารู้

ข้อระวังของการกินแบบ คีโตเจนิค ไดเอท

โดยทั่วไปแล้ว เรามักจะเรียกกันติดปากว่า คีโต ซึ่งชื่อเต็ม ๆ อย่างเป็นทางการนั้น.มาจากคำว่า Ketogenic Diet
ตามหลักแล้ว จะเป็นการกินอาหาร.เพื่อทำให้ร่างกายมีการสลายไขมัน เช่น เมื่อเราได้กินอาหารที่เป็นข้าว , แป้ง
น้ำตาล หรือ อาหารที่มีค่าคาร์โบไฮเดรตที่ต่ำมาก ๆ สิ่งที่เกิดขึ้นคือร่างกายจะรู้สึกว่าตอนนี้เราไม่มีน้ำตาลเข้าไป
เมื่อเป็นเช่นนั้น ปฏิกิริยาทางเคมีของร่างกาย ก็จะรู้สึกเหมือนกับว่าเราอดอาหาร และจะเข้าสู่กระบวนการทำงาน
ของการไปสลายไขมันในร่างกายขึ้นมา ในขั้นตอนนี้เอง จะทำให้เกิดสารตัวหนึ่ง ซึ่งทำหน้าที่ในการสลายไขมัน
ที่เรียกว่า คีโตน (Ketone) เพราะสาเหตุนี้จึงได้ใช้คำว่า Ketogenic Diet เป็นชื่อเรียก.สำหรับการกินในรูปแบบนี้

เหตุใด กินไขมันถึงทำให้ลดน้ำหนัก ?

อันดับแรก เมื่อเรากินอาหารเข้าไปปุ๊บ ร่างกายของเราก็จะเริ่มทำหน้าที่ในการสลายไขมันปั๊บ ด้วยสาเหตุที่ว่า..
ร่างกายของเรารู้สึกเหมือนกับว่าไม่ได้กินอาหาร ถึงแม้ว่าการกินไขมันเข้าไปจะเป็นการเพิ่มพลังงานให้ร่างกาย

อันดับที่สอง ในขณะที่กำลังมีกระบวนการสลายไขมันขึ้นมา สิ่งที่ตามมากก็คือ ร่างกายก็จะมีการเสียน้ำไปด้วย
ตามกลไกปกติของการสลายไขมัน เพราะฉะนั้นแล้ว ในช่วงแรก ๆ น้ำหนักตัวจะลดลงมาก เนื่องจากการเสียน้ำ

อันดับที่สาม เวลาที่เราไม่กินพวกนี้ จะมีของเสียซึ่งชื่อว่า คีโตน เกิดขึ้น มันจะทำให้เราเบื่ออาหาร เพราะฉะนั้น
เมื่อที่เรากินอาหารจำพวกคีโต มันจึงไม่จำเป็นต้องนับแคลอรี่ เพราะจะกินได้น้อยลงด้วยความที่เบื่ออาหารเอง

ในระยะยาว น้ำหนักยังจะลงอีกไหม ?

คีโตเจนิคไดเอท จะมีผลในแง่ของการลดน้ำหนัก ถ้าเทียบกับการกินอาหารไขมันต่ำหรือว่าอาหารทั่วไป แต่ว่า
จะเป็นไปในระยะสั้นตามงานวิจัย โดยทั่วไปภายใน 6 เดือนแรก จะดีกว่าการกินอาหารชนิดอื่น ..แต่ในระยะยาว
โดยมากแล้วจะไม่แตกต่างกัน เหตุผลหลักคือ ในความเป็นจริง เราไม่สามารถทนการกินอาหารแบบนี้ได้ตลอด

การกินระยะยาวมีผลเสีย! เพราะมันเป็นอาหารที่กินไม่ครบถ้วนตามหลักโภชนาการ เนื่องจากเรากินแค่บางส่วน
จึงได้รับสารอาหารไม่หลากหลายพอ กินบางส่วนคืออะไร ? กินไขมันได้ กินโปรตีนได้ แต่ไม่ให้กินผักที่เป็นหัว
กินได้แต่พวกผักใบ ห้ามกินผลไม้ ห้ามกินข้าว แป้ง น้ำตาลและน้ำหวานทุกชนิด..เพราะฉะนั้นแล้วการกินแบบนี้
ยังไงก็ไม่มีวันครบถ้วนแน่นอน! แต่ถ้ากินระยะยาว.ก็จำเป็นต้องเพิ่มสารอาหารที่ขาดไป ทั้งวิตามิน และเกลือแร่

สิ่งที่ต้องทราบคือ เมื่อใดที่เรากินพวกข้าว แป้ง น้ำตาล น้ำหนักจะกลับมาอย่างรวดเร็ว หรือที่เรียกว่า -โยโย่-

คนกลุ่มไหนที่ไม่ควรกิน ‘คีโตเจนิค’ ?

คนที่ห้ามกินแน่ ๆ คือคนที่มีปัญหาเรื่องการทำงานของตับ ด้วยเหตุผลที่ว่า ถ้าเราไม่กินข้าว แป้ง น้ำตาลเข้าไป
ร่างกายเราจะสร้างพลังงาน ด้วยการใช้ไขมันเป็นหลัก แล้วการที่จะเปลี่ยนไขมันให้เป็นพลังงาน ขอบอกเลยว่า
ตับจะทำงานหนักมากขึ้น ถ้าคน ๆ นั้นตับไม่ดี เดือดร้อนแน่นอน! เพราะฉะนั้น ห้ามใช้ในคนไข้ที่มีปัญหาโรคตับ

กลุ่มที่สอง ผู้ที่มีปัญหาเรื่องไต เพราะคนที่ไตเสื่อม จะต้องกินโปรตีนค่อนข้างเยอะ จึงอาจจะมีปัญหาได้เช่นกัน

กลุ่มที่สาม คนที่มีภาวะผิดปกติ ‘เรื่องการเผาผลาญไขมัน’ แล้วจะรู้ได้อย่างไร? .อันนี้บางทีก็เป็นเรื่องกรรมพันธุ์
แต่ถ้าไม่รู้จริง ๆ ให้ลองสังเกตดูว่า ถ้าใครที่มีคอเลสเตอรอลในเลือดสูงมาก ๆ ไตรกลีเซอไรด์ในเลือดสูงมาก ๆ
ก็ไม่ควรเสี่ยงเลย ข้อเสียอีกเรื่องสำหรับกลุ่มนี้ก็คือ จะต้องใช้ไขมันค่อนข้างสูง เพราะฉะนั้นกลุ่มที่มีปัญหาเรื่อง
การบีบตัวของลำไส้ ท้องอืดได้ง่าย ๆ มีกรดไหลย้อน อันนี้ต้องระวัง เพราะว่าอาจจะทำให้อาการกำเริบได้ง่าย ๆ


credit : https://www.rama.mahidol.ac.th/ramachannel/home/article/คีโตเจนิค/
credit : https://i.pinimg.com/736x/b2/6b/f9/b26bf9b7cb89bcc8c046acbea320d60f.jpg
credit : https://healthylittlecravings.com/wp-content/uploads/2018/03/how-to-cook-oatmeal-2.jpg
——————————————————————————————————————————–

Show More

บทความที่เกี่ยวข้อง

Back to top button